เรื่องสั้น      ไอ้เดชชอบอีสา (ตอนจบ)
 


ไอ้เดชชอบอีสา (ตอนจบ)

เกลียว ฟางกรอบ






เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ประเทศเรามีรายได้จากการที่ทหาร จี.ไอ. เข้ามาตั้งฐานทัพในเมืองไทย เงินดอลล่าร์สะพัด เศรษฐกิจดีขึ้นแบบผิวเผิน หญิงไทยหลายคนตกเป็นเมียเช่าของฝรั่ง บางคนก็ถือว่าโชคดี ได้แต่งงานกับทหาร จี.ไอ. มีฐานะดีขึ้น คนไทยไม่ได้คิดอะไรมากมายในตอนนั้นมาถึงทุกวันนี้ก็คือ ลูหลายไทยหน้าตาเป็นฝรั่ง มองเมินวัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นสิ่งไร้ค่า ไม่คิดจะอนุรักษ์ ไม่คิดจะหวงแหน... อีกหน่อยถ้าต้องการจะรู้จักคนไทยแท้ๆ ดั้งเดิมจริง คงต้องไปค้นหาดูภาพเก่าๆ ในพิพิธภัณฑ์กันมาดู

ไทยไม่เคยเสียเอกราชให้กับฝรั่งชาติใด แต่เวลานี้วัฒนธรรมไทยได้ถูกรุกรานและครอบงำโดยลูกหลานไทยที่ไม่รักในความเป็นไทย และไม่หยิ่งในความเป็นไทย จากที่ผู้หญิงไทยต้องเป็นผู้มีมารยาท เรียบร้อย อ่อนหวาน เขินอาย นุ่งผ้ากรอมเท้า... ใส่เสื้อแขนยาวทรงกระบอก ...แค่ถูกจับมือ ก็ถือว่าเป็นเรื่องผิดผีผิดเหย้า...

เวลานี้ ลูกหลานไทยร้องรำทำเพลง เด้งหน้า เด้งหลัง.. คลำเป้า... คลำพวง.. อย่างไร้ยางอาย เพราะหลงตามวัฒนธรรมของประชาชาติที่ไม่มีวัฒนธรรมที่ดีงามอย่างที่คนไทยเรามีมาแต่โบราณนับเป็นพันปี

ประเทศของเรากำลังประสบกับปัญหาเศรษฐกิจตกสะเก็ดไม่ขยายตัว คนไทยจำนวนมากที่มีความสามารถได้พยายามขวนขวายให้ประเทศกลับเข้าสู่สภาวะปกติ และให้กียิ่งขึ้นด้วยความรักชาติ

คิดว่าเป็นโชคดี ที่มีการให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงินมาจากต่างประเทศ ทั้งจากซีกโลกตะวันตกและจากซีกโลกตะวันออก เปรียบเสมือนเทพบุตรและนางฟ้าที่มีเมตตาได้เข้ามาช่วยเหลือแบ่งเบาทุกข์ยากบรรเทาทุกข์เข็ญ และนำความร่มเย็นมาสู่ประเทศไทยในสภาวะที่คับขันเช่นนี้

ผิดไหม...ถ้าจะพูดว่ามิสเตอร์ “ซิฟ” ผู้มาจากทิศตะวันตก และมิส “มิยาซาวา” ผู้มาจากทิศตะวันออก เป็นนักบุญ ผู้มีจิตเป็นกุศลสำหรับคนไทยในเวลานี้

ไอ้เดชไม่เสียใจหรอก ที่ไม่ได้ทำงานในออฟฟิศกับเจ้านายใหญ่โตภูมิฐาน เพราะพ่อได้ปลูกฝังศาสนาไว้ในใจและในวิญญาณของมันแล้ว ไอ้เดชจะยอมรับท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ) เป็นนายแต่เพียงผู้เดียว... ไอ้เดชเป็นบ่าว... มีอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ผู้ทรงเดชะ เป็นที่รักและเกรงกลัว... ทั้งที่ลับและที่แจ้ง... มีอัลกุรอานเป็นเพื่อน...

“ซิฟ” และ “มิยาซาวา” ให้อะไรแด่ประเทศชาติ ของเราบ้างมากแค่ไหน และเอาผลประโยชน์อะไรไปจากบ้านเมืองของเราบ้าง.. ไอ้เดชไม่ต้องคิด...

เพราะภูมิปัญญาชาวบ้านอย่างมัน ยังไม่ต้องใช้สมองมากนัก... มีผู้ที่เขาเรียนสูงและมีมันสมองเป็นเลิศกว่ามัน.... และเขามีความรักชาติรักบ้านเมืองกันจนน้ำมูก น้ำลายไหล เขาคงต้องคิดกันอยู่แล้ว .. แต่นั่นซิ เขาจะคิดกันออกบ้างรึเปล่านะ มันเองก็ชักจะไม่แน่ใจ

หิวข้าวจนท้องร้อง จ๊อก จ๊อก... ไอ้เดชเผลอเอามือคลำท้อง คิดว่าถ้ากลับไปตอนนี้ก็น่าจะได้อยู่หรอก เพราะแม่คงจะหุงหาเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่นั่นแหล่ะมันจะต้องกินข้าวเคล้าเสียงด่าเป็นแน่แท้...

ไอ้เดชคิดว่า ถ้ามีเมียสักคนก็ดีนะ... หุงข้าวให้กินแล้วแถมยังส่งยิ้มหวานๆ ให้ด้วย นั่นซิ... ถ้ายิ้มหวานๆ นุ่มนวล อ่อนหวานแล้วละก้อ ต้องสวยแบบ “อีสา” ที่มันถูกใจ แต่ว่าจริงๆ แล้ว “ไอ้เดชชอบอีสา” เพราะความรู้สึกบริสุทธิ์ตามธรรมชาติ... หรือเพราะว่ามันถูกครอบงำผ่านทาง “สื่อ” โดยไม่รู้สึกตัว



Copyrights © 2009 www.nisavariety.com All Rights Reserved.
counter