“ราตรี พันหนึ่ง ทิวา”  งานการกุศลของ มูลนิธิแม่บ้านไทยมุสลิม

จากความเมตตาของ ฮัจญะฮ์ดารา ขัตติยะอารี

ฮัจยะฮ์ดารา (สุไบดะห์) ขัตติยะอารี

งาน “ราตรี พันหนึ่ง ทิวา” จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มี “มูลนิธิแม่บ้านไทยมุสลิม” และเมื่อกล่าวถึง “มูลนิธิแม่บ้านไทยมุสลิม” ทุกคนต้องรู้จักผู้ก่อตั้ง และประธานมูลนิธิ ฯ นี้ ซึ่งก็คือ ฮัจยะฮ์ดารา (สุไบดะห์) ขัตติยะอารี

ความเป็นมาของ “มูลนิธิแม่บ้านไทยมุสลิม” เริ่มมาจากที่ครอบครัว “ขัตติยะอารี” ตั้งแต่บรรพบุรุษ ได้น้อมนำคำสอนของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ที่ให้มีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เป็นหลักในการดำเนินชีวิตมาโดยตลอด เจตนารมณ์ดังกล่าวถูกถ่ายทอดจากบิดา-มารดา สู่รุ่นทายาทของครอบครัว โดยมีฮัจญะฮ์ดารา ขัตติยะอารี  เป็นแกนนำสำคัญ จากจุดเล็กๆ ของการช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากและด้อยโอกาส เริ่มเปิดกว้างสู่สังคมมากขึ้น เมื่อฮัจญะฮ์ดารา ได้เข้าร่วมงานกับท่านผู้หญิงอุศนา ปราโมช ในฐานะเลขานุการสมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน ต่อมาได้มีโอกาสร่วมงานกับสมาคมสตรีไทยมุสลิม โดยเป็นกรรมการฝ่ายต่างประเทศ จากนั้น่ในปี พ.ศ. 2537 ฮัจญะฮ์ดารา ได้รวบรวมเพื่อนๆ มุสลิมะฮ์ที่มีอุดมการณ์ในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม จัดตั้งขึ้นเป็น “กลุ่มแม่บ้านไทยมุสลิม” และจากการทำงานอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม ทำให้ได้รับการสนับสนุนจากปัจเจกบุคคล และองค์กรต่างๆ มากขึ้น จนได้จดทะเบียนยกฐานะขึ้นเป็น “มูลนิธิแม่บ้านไทยมุสลิม” ในปี พ.ศ. 2539 โดยมีจุดประสงค์หลักในการช่วยเหลือเด็กกำพร้า ยากจน รวมทั้งแม่หม้าย และสตรีผู้ยากไร้ ด้อยโอกาสในสังคม โดยมิได้จำกัดเฉพาะผู้นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น

นอกจากการช่วยเหลือดังกล่าวแล้ว ยังมีการช่วยงานการกุศลด้านบรรเทาสาธารณภัย อาทิ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งยังได้ช่วยเหลือองค์กรต่างๆ ที่มีวัตถุประสงค์เดียวกัน ร่วมสนับสนุนในการจัดสร้างมัสยิด โรงเรียนสอนศาสนา รวมทั้งมอบเงินช่วยเหลือครูสอนศาสนา-ศีลธรรม ซึ่งทางมูลนิธิ ฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญ เพราะเป็นผู้อบรมสั่งสอนเยาวชนมุสลิม ซึ่งจะเป็นอนาคตของสังคมและประเทศชาติต่อไป

ฮัจญะฮ์ ดารา ขัตติยะอารี กล่าวว่า “ขอชุโก๊ร ต่อเอกองค์อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) ที่ประธานให้มูลนิธิแม่บ้านไทยมุสลิม ได้มีโอกาสทำความดี ในการช่วยเหลือสังคม และขอชุโก๊รในความเมตตาจากพระองค์ ที่ประทานความสำเร็จให้กับมูลนิธิแม่บ้านไทยมุสลิม เพราะการงานทุกอย่างถ้าไม่ได้รับการอนุมัติจากพระองค์อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) แล้ว ก็คงจะไม่ประสบความสำเร็จมาโดยตลอดเช่นนี้”

www.nisavariety.com