แครอตรู้ไหมหากนำมากินพร้อมกับน้ำมันงาจะมีประสิทธิภาพช่วยในการดูดซึมสารอาหารมากขึ้น นอกจากแครอตจะมีประโยชน์ป้องกันโรคมะเร็งแล้วยังมีสรรพคุณป้องกันอีกโรคอื่นๆอีกด้วย
Carrot ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Daucus carota วงศ์ Apiaceae เป็นพืชล้มลุก โดยทั่วไปมีอายุ 2 ปี ถิ่นกำเนิดอยู่ในอัฟกานิสถานและพื้นที่ใกล้เคียง ผู้ค้นพบว่าในแครอตมีสารแคโรทีนมากนั้นคือ นักวิทยาศาสตร์ชื่อโมลล์และนักเคมีชื่อคาร์เตอร์ ซึ่งเป็นการพบโดยบังเอิญ ขณะที่ให้ม้ากินแครอต
ในหนังสือ สมุนไพร 91 ชนิด พิชิตโรค ชุด ตำรายาล้ำค่าของหมอโฮจุน ที่ยูเนสโกคัดเลือกให้เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก จากสำนักพิมพ์อินสปายร์ บันทึกไว้ว่า แคโรทีน เป็นสารประกอบอินทรีย์หนึ่งในหลายชนิดที่พบอยู่ทั่วไปในพืชและสัตว์ เป็นสารสีที่ให้สีส้ม สีเหลือง หรือบางครั้งสีแดง มีมากในดอกแดนดิไลออน ผลแอพริคอต แครอต มันเทศ เนย ไข่แดง ขนนกขมิ้น และเปลือกกุ้งใหญ่ ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นแคโรทีนให้เป็นวิตามินเอได้
ในแครอตยังมีลิกนินและเพกทิสูง ซึ่งลิกนิน คือส่วนประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งของพืชในไม้เนื้อแข็ง เป็นสารประกอบพอลิเมอร์ไม่มีรูปผลึก จะเกาะกันอยู่ในชั้นระหว่างเส้นใย ซึ่งทำหน้าที่ยึดเกาะเส้นใยเข้าด้วยกัน และมีบางส่วนผสมอยู่ในเส้นใย ลิกนินช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ส่วนเพกทินช่วยปรับการเคลื่อนไหวของลำไส้และช่วยย่อยอาหาร ทำให้หยุดถ่ายเมื่อท้องเสีย
นอกจากจะดีต่อสุขภาพ แล้วในแครอตยังมี สารฟลาโวนอยด์ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยทำให้ความดันโลหิตต่ำลงหัวใจแข็งขึ้น รวมทั้งยังมีวิตามินอีและวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา แก้โรคตาฟาง ขับปัสสาวะ และขับพยาธิไส้เดือนได้ด้วย
เมื่อกินพร้อมอาหารอื่น ๆ ก็ยิ่งได้ประโยชน์สูง เพราะแครอตมีแคโรทีนเป็นส่วนประกอบหลัก ถ้ากินดิบ ๆ จะทำให้การดูดซึมสารอาหารไม่ดี อย่างไรก็ตาม มีผลการทดลองทางเภสัชวิทยาพบว่า การกินแครอตผัดน้ำมันงา หรือน้ำมันถั่วเหลือง จะทำให้การดูดซึมสารอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อมูลhttp://women.thaiza.com