“สมเด็จพระบรมฯ” เสด็จปัตตานี พระราชทานรางวัล อัญเชิญ “อัลกุรอาน” พสกนิกรปีติเฝ้ารับ
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯไปเป็นประธานในพิธีพระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการทดสอบการอัญเชิญคัมภีร์อัลกุรอาน ระดับประเทศ ณ มัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2558
เมื่อเวลา 16.46 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง ไปยังโรงเรียนเบญจมราชูทิศ อ.เมือง จ.ปัตตานี มีนายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดปัตตานี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เฝ้ารับเสด็จ
จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพานพุ่ม และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ณ บริเวณลานศิลปวัฒนธรรม ถนนสายบุรี มีข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนร่วมบริจาคเงินสร้างขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ทรงเป็นประธานในพิธีพระราชทานถ้วยรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัล กุรอาน ระดับประเทศ ชิงถ้วยพระราชทาน ครั้งที่ 10 ประจำปี 2558 ซึ่งเทศบาลเมืองปัตตานีจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ชาวไทยมุสลิม ได้รู้หลักธรรมคำสอน ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ได้อย่างถ่องแท้และปฏิบัติในชีวิตประจำวันอย่างถูกต้อง ตรงต่อพระมหาคัมภีร์ ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างความสมัครสมานสามัคคี ความสัมพันธ์อันดี ระหว่างพี่น้องมุสลิมด้วยกัน อันจะนำไปสู่ความร่วมมือในการพัฒนาท้องถิ่น ผู้ชนะเลิศคือ นายหร้อมหลี แหละมีนา และน.ส.กนกวรรณ สุขถาวร ซึ่งจะเป็นผู้แทนระดับจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ ไปเข้าร่วมแข่งขันกอรีในงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย เพื่อหาผู้แทนไปแข่งขันระหว่างประเทศ
ในการนี้ นายประสาน ศรีเจริญ รองประธานผู้ทรงคุณวุฒิสำนักจุฬาราชมนตรี และผู้แทนจุฬาราชมนตรี ได้ร่วมกันสวดดุอาร์ถวายพระพร เสร็จแล้วทอดพระเนตรสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งราษฎรในพื้นที่ได้รวมกลุ่มกันผลิตสินค้าพื้นเมืองจำหน่าย อาทิ กลุ่มผ้าบาติกชุมชนโรงอ่าง กลุ่มผ้าปาเต๊ะ กลุ่มผ้าบิก รวมทั้งกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร ซึ่งมีทั้งน้ำพริก น้ำบูดู ข้าวเกรียบปลา ลูกหยีและกล้วยปรุงรส เป็นต้น
จากนั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน พระราชทานโล่เกียรติคุณและเงินรางวัลแก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นประจำปี 2557 และผู้แทนโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียน ครู และนักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้ประจำปี 2557 ณ ที่ว่าการองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปัตตานี ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจัดขึ้น โดยคัดเลือกผู้ที่เพียบพร้อมด้วยคุณธรรมจริยธรรม ประกอบคุณงามความดี และสร้างสรรค์ความเจริญแก่สังคมและประเทศชาติ สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ และทำคุณประโยชน์ให้แก่ทางราชการและประเทศชาติ
โอกาสนี้ พระราชทานพระราชดำรัสแก่ผู้นำศาสนาอิสลาม และผู้แทนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในจังหวัดภาคใต้ที่เฝ้าทูลละอองพระบาท ความว่า “หน้าที่ดูแลและแนะนำสั่งสอนอิสลามิกบริษัท กับหน้าที่ให้การศึกษาอบรมเยาวชนนั้นเกี่ยวพันกันมาก เพราะต่างมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่การสร้างเสริมความดีและความเจริญผาสุกให้แก่ บุคคลและสังคมส่วนรวม หน้าที่ทั้งนั้น นับว่ามีความสำคัญอย่างมาก ด้วยเหตุว่า บุคคลที่ได้รับการแนะนำสั่งสอนและการศึกษาอบรมที่ดีที่ครบถ้วน ให้มีความรู้ในหลักวิชาอย่างหนักแน่นกว้างขวางและมีความเข้าใจในหลักธรรมของ ศาสนาอย่างชัดเจนถูกต้อง ย่อมสามารถดำเนินชีวิตและประกอบสัมมาชีพ สร้างสรรค์ความดี ความเจริญผาสุกให้แก่ตนเองและสังคมส่วนรวมได้แท้จริง ดังนั้น กรรมการอิสลามก็ดี ผู้บริหารโรงเรียนก็ดี ที่ได้รับการยกย่องในครั้งนี้ จึงควรจะภูมิใจได้เต็มที่ในผลงานที่ได้ปฏิบัติมา และเต็มใจยินดีที่จะร่วมมือร่วมงานกันให้ยิ่งใกล้ชิดเข้มแข็งเพื่อให้งานทุก อย่างในหน้าที่ดำเนินไปด้วยดีและมีประสิทธิผลยิ่งๆขึ้น ความดีความเจริญและความร่มเย็นเป็นผาสุก จักได้บังเกิดมีแก่บุคคล แก่ท้องถิ่น และแก่ชาติบ้านเมืองเราดังที่ทุกคนทุกฝ่ายตั้งใจปรารถนา”
ขอบคุณที่มา มติชน